เครื่องจี้ไฟฟ้าที่เหมาะสำหรับโรงพยาบาลขนาดใหญ่และคลินิกขนาดเล็ก

เครื่องจี้ไฟฟ้า (Electrosurgery Unit) หรือที่เรียกว่า เครื่องจี้ห้ามเลือด เป็นอุปกรณ์การแพทย์ที่มีบทบาทสำคัญในห้องผ่าตัดและการทำหัตถการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการผ่าตัดทั่วไป การศัลยกรรมตกแต่ง การทำแผล หรือการผ่าตัดเฉพาะทางต่าง ๆ

เทคโนโลยีของเครื่องจี้ไฟฟ้ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถตัดเนื้อเยื่อและห้ามเลือดได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยลดการสูญเสียเลือด ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึง สเปกและเทคโนโลยีของเครื่องจี้ไฟฟ้า ที่เหมาะสมกับ โรงพยาบาลขนาดใหญ่ และ คลินิกขนาดเล็ก เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้อุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด


ความสำคัญของเครื่องจี้ไฟฟ้าและเครื่องจี้ห้ามเลือดในห้องผ่าตัด

เครื่องจี้ไฟฟ้าและเครื่องจี้ห้ามเลือดมีหน้าที่หลักในการ ตัดและห้ามเลือดพร้อมกัน โดยใช้พลังงานไฟฟ้าความถี่สูงส่งผ่านขั้วอิเล็กโทรดเข้าสู่เนื้อเยื่อ การทำงานนี้ช่วยให้แพทย์สามารถควบคุมกระบวนการผ่าตัดได้อย่างแม่นยำ ลดเวลาและความเสี่ยงต่อผู้ป่วย

ประโยชน์หลักของเครื่องจี้ไฟฟ้า

  1. ห้ามเลือดได้อย่างรวดเร็ว ลดการสูญเสียเลือดระหว่างผ่าตัด

  2. ลดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ

  3. ทำให้การผ่าตัดเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่สะดุด

  4. เพิ่มความปลอดภัยและลดระยะเวลาพักฟื้นของผู้ป่วย

  5. ช่วยให้แพทย์ทำงานได้แม่นยำมากขึ้นโดยไม่ต้องใช้แรงกดมาก


ประเภทของเครื่องจี้ไฟฟ้า (Electrosurgery Type)

เครื่องจี้ไฟฟ้าแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามระบบการทำงาน ได้แก่

1. Monopolar Electrosurgery

ระบบที่ใช้ อิเล็กโทรดขั้วเดียว ในการส่งพลังงานผ่านร่างกายผู้ป่วยเพื่อทำการตัดหรือจี้ห้ามเลือด เหมาะสำหรับการผ่าตัดทั่วไปที่ต้องการพลังงานสูง เช่น

  1. การผ่าตัดช่องท้อง

  2. การผ่าตัดมดลูก

  3. การผ่าตัดทั่วไปในโรงพยาบาลขนาดใหญ่

ข้อดี:

  1. มีพลังงานสูง เหมาะกับการผ่าตัดขนาดใหญ่

  2. ห้ามเลือดได้ดีในพื้นที่กว้าง

ข้อจำกัด:

  1. ต้องมีระบบกราวด์เพลตเพื่อป้องกันการรั่วของกระแสไฟฟ้า

  2. ไม่เหมาะกับคลินิกขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด


2. Bipolar Electrosurgery

เป็นระบบที่มี ขั้วไฟฟ้าสองขั้วในหัวจี้เดียวกัน พลังงานจะผ่านเฉพาะบริเวณที่สัมผัสกับเนื้อเยื่อเท่านั้น
เหมาะกับงานผ่าตัดละเอียด เช่น ศัลยกรรมตกแต่ง, ผ่าตัดสมอง, หู-คอ-จมูก, หรือการผ่าตัดในคลินิกขนาดเล็ก

ข้อดี:

  1. มีความแม่นยำสูง

  2. ปลอดภัยต่อผู้ป่วยมากกว่า

  3. ไม่ต้องใช้แผ่นกราวด์

ข้อจำกัด:

  1. พลังงานต่ำกว่าแบบ Monopolar

  2. ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการตัดพื้นที่ขนาดใหญ่


  


สเปกพื้นฐานที่ควรพิจารณาเมื่อเลือกเครื่องจี้ไฟฟ้า

การเลือกเครื่องจี้ไฟฟ้าที่เหมาะสมควรคำนึงถึงทั้ง สเปกทางเทคนิคและความปลอดภัย ดังนี้

รายการสเปกคำอธิบายคำแนะนำสำหรับโรงพยาบาลใหญ่คำแนะนำสำหรับคลินิกขนาดเล็ก
กำลังไฟ (Power Output) กำลังในการตัดหรือจี้ (Watt) 300–400W เหมาะกับการผ่าตัดใหญ่ 100–150W สำหรับงานศัลยกรรมเบา
โหมดการทำงาน (Modes) Cut / Coag / Blend ควรมีครบทั้ง 3 โหมด ควรมีอย่างน้อย Cut และ Coag
ระบบควบคุมความปลอดภัย Alarm / Auto Power Control จำเป็นต้องมีครบทุกระบบ ควรมีระบบแจ้งเตือนเบื้องต้น
ประเภทอิเล็กโทรด Monopolar / Bipolar ใช้ได้ทั้งสองแบบ เน้น Bipolar เพื่อความปลอดภัย
ขนาดและน้ำหนัก ความสะดวกในการเคลื่อนย้าย ขนาดใหญ่ วางประจำห้องผ่าตัด ขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบา
ระบบระบายความร้อน ป้องกันความร้อนสะสม ระบบพัดลมคู่หรือ Cooling System ระบบระบายอากาศภายใน
มาตรฐานความปลอดภัย CE / ISO / FDA ควรผ่านมาตรฐานสากล อย่างน้อยผ่าน มอก. หรือ CE

เทคโนโลยีที่ใช้ในเครื่องจี้ไฟฟ้าสมัยใหม่

1. ระบบ Auto Power Adjustment

เทคโนโลยีนี้ช่วยปรับกำลังไฟให้เหมาะสมกับความหนาแน่นของเนื้อเยื่ออัตโนมัติ ลดความเสี่ยงจากการใช้พลังงานเกิน ทำให้เครื่องจี้ไฟฟ้าสามารถควบคุมความร้อนและการตัดได้อย่างปลอดภัย

2. Touchscreen Interface

เครื่องจี้ไฟฟ้ารุ่นใหม่มาพร้อมหน้าจอสัมผัสที่ใช้งานง่าย ช่วยให้แพทย์สามารถปรับโหมดการทำงานได้รวดเร็วในระหว่างผ่าตัด

3. ระบบป้องกันการรั่วของกระแสไฟ (Return Electrode Monitoring System)

เทคโนโลยีนี้จะตรวจสอบการสัมผัสของแผ่นกราวด์แบบเรียลไทม์ หากตรวจพบความผิดปกติ เครื่องจะหยุดทำงานทันทีเพื่อป้องกันอันตรายแก่ผู้ป่วย

4. Smart Energy Delivery

บางรุ่นใช้เทคโนโลยี “Adaptive Response Technology” ที่ปรับค่าพลังงานตามความหนาแน่นของเนื้อเยื่ออัตโนมัติ ทำให้การห้ามเลือดและการตัดเป็นไปอย่างนุ่มนวล

5. ระบบจดจำการตั้งค่าผู้ใช้งาน (User Profile Memory)

เหมาะสำหรับโรงพยาบาลใหญ่ที่มีศัลยแพทย์หลายท่าน สามารถบันทึกการตั้งค่าเฉพาะบุคคล เช่น กำลังไฟฟ้า โหมดการทำงาน หรือเวลาการจี้แต่ละครั้ง


การเลือกเครื่องจี้ไฟฟ้าที่เหมาะกับขนาดสถานพยาบาล

เครื่องจี้ไฟฟ้าสำหรับโรงพยาบาลขนาดใหญ่

โรงพยาบาลที่มีการผ่าตัดหลายประเภทควรเลือก เครื่องจี้ไฟฟ้าที่มีระบบ Monopolar และ Bipolar ในเครื่องเดียวกัน
พร้อมระบบควบคุมอัจฉริยะ เช่น Auto Power Adjustment และ Return Electrode Monitoring

คุณสมบัติที่ควรมี:

  1. กำลังไฟมากกว่า 300W

  2. รองรับหลายโหมด (Cut / Coag / Blend / Spray)

  3. ระบบระบายความร้อนคุณภาพสูง

  4. หน้าจอ Touchscreen ขนาดใหญ่

  5. มีหน่วยความจำการใช้งานและระบบบันทึกข้อมูลอัตโนมัติ

ตัวอย่างการใช้งาน:

  1. การผ่าตัดช่องท้อง / ศัลยกรรมหัวใจ / การผ่าตัดทางนรีเวช

  2. การผ่าตัดที่ต้องใช้ระยะเวลานานและต้องควบคุมพลังงานต่อเนื่อง


เครื่องจี้ไฟฟ้าสำหรับคลินิกขนาดเล็ก

คลินิกศัลยกรรมตกแต่ง คลินิกความงาม หรือคลินิกหัตถการทั่วไป ควรเลือก เครื่องจี้ไฟฟ้าแบบ Bipolar หรือแบบ Compact Electrosurgery Unit
ซึ่งมีขนาดเล็ก ประหยัดพลังงาน และเคลื่อนย้ายง่าย

คุณสมบัติที่ควรมี:

  1. กำลังไฟประมาณ 100–150W

  2. มีโหมด Cut และ Coag อย่างน้อย 2 โหมด

  3. ใช้งานง่าย มีระบบป้องกันความร้อนเกิน

  4. น้ำหนักเบาและสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก

ตัวอย่างการใช้งาน:

  1. การกำจัดไฝ ขี้แมลงวัน หูด

  2. การจี้ห้ามเลือดแผลเล็ก

  3. การผ่าตัดศัลยกรรมตกแต่งขนาดเล็ก


เปรียบเทียบเครื่องจี้ไฟฟ้าสำหรับโรงพยาบาลและคลินิก

รายการเปรียบเทียบโรงพยาบาลขนาดใหญ่คลินิกขนาดเล็ก
กำลังไฟ (Watt) 300–400W 100–150W
โหมดการทำงาน Cut, Coag, Blend, Spray Cut, Coag
ระบบควบคุมอัตโนมัติ Auto Power, Smart Energy Manual หรือ Semi-Auto
ระบบความปลอดภัย Return Electrode Monitoring, Alarm Basic Alarm
ขนาดและน้ำหนัก ขนาดใหญ่ ติดตั้งถาวร ขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายได้
ราคาโดยประมาณ 200,000–500,000 บาท 50,000–120,000 บาท
เหมาะสำหรับ ห้องผ่าตัดใหญ่ / ศัลยกรรมเฉพาะทาง คลินิกตกแต่ง / หัตถการทั่วไป

ข้อควรระวังและการบำรุงรักษาเครื่องจี้ไฟฟ้า

  1. ตรวจสอบสายกราวด์และอิเล็กโทรดก่อนใช้งานทุกครั้ง

  2. หลีกเลี่ยงการใช้ในพื้นที่ที่มีของเหลวหรือตัวนำไฟฟ้า

  3. ทำความสะอาดหัวจี้หลังใช้งานด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่เหมาะสม

  4. ควรสอบเทียบ (Calibration) เครื่องทุก 6 เดือน

  5. เลือกใช้เครื่องที่ผ่านมาตรฐาน CE, ISO, FDA เพื่อความปลอดภัยสูงสุด


แนวโน้มเทคโนโลยีเครื่องจี้ไฟฟ้าในอนาคต

เครื่องจี้ไฟฟ้ารุ่นใหม่เริ่มพัฒนาไปสู่ Smart Electrosurgery System ที่เชื่อมต่อข้อมูลผ่านระบบดิจิทัล (Digital OR Integration)
รวมถึงเทคโนโลยี AI Monitoring ที่สามารถวิเคราะห์การใช้พลังงานและแจ้งเตือนล่วงหน้าเมื่อเกิดความผิดปกติ

เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยให้การผ่าตัดมีความแม่นยำสูงขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น และช่วยลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ในอนาคต


สรุป

การเลือก เครื่องจี้ไฟฟ้า หรือ เครื่องจี้ห้ามเลือด ที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญต่อประสิทธิภาพการรักษาและความปลอดภัยของผู้ป่วย

  1. โรงพยาบาลขนาดใหญ่ควรเลือกเครื่องรุ่นที่มีระบบครบครัน กำลังไฟสูง และเทคโนโลยีอัจฉริยะ

  2. คลินิกขนาดเล็กควรมองหาเครื่องรุ่นกะทัดรัด ใช้งานง่าย และมีระบบความปลอดภัยพื้นฐาน

สุดท้าย อย่าลืมตรวจสอบมาตรฐานการรับรองและบริการหลังการขายจากผู้จำหน่าย เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องจี้ไฟฟ้าที่เลือกนั้นตอบโจทย์ทั้งด้านคุณภาพ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย

AMC นำเข้าและจำหน่ายขายเครื่องมือแพทย์ อุปกรณ์การแพทย์ ได้มาตรฐาน อย. สำหรับโรงพยาบาล คลินิก สถานธุรกิจ ทุกชนิด อาทิ เครื่องกระตุ้นหัวใจ Defibrillator เครื่องอัลตราซาวด์ Ultrasound เครื่องจี้ไฟฟ้า เครื่อง AED เครื่องวัดออกซิเจนในเลือด Pulse Oximeter หม้อนึ่งฆ่าเชื้อ เครื่อง EKG  เครื่องฟังเสียงหัวใจทารก Fatal Doppler จอมอนิเตอร์ Monitor เป็นต้น สินรับประกันสินค้า 1ปี พร้อมบริการดูแลซ่อมแซมหลังการขาย จัดส่งทั่วประเทศ ประสบการณ์กว่า 30ปี
 

  
Visitors: 410,095